tag:blogger.com,1999:blog-5783025943988227087.post1202923270874734437..comments2022-03-26T18:55:37.795+07:00Comments on DNA Thailand Law: โมฆะกรรม ต่างกับ โมฆียะกรรม อย่างไรDna Thailandhttp://www.blogger.com/profile/02617200953607570103noreply@blogger.comBlogger2125tag:blogger.com,1999:blog-5783025943988227087.post-78221396509164731952013-01-16T11:02:55.483+07:002013-01-16T11:02:55.483+07:00โมฆะ,โมฆียะ
โมฆะ กับ โมฆียะ เป็นคำกฎหม...โมฆะ,โมฆียะ<br /> <br /> โมฆะ กับ โมฆียะ เป็นคำกฎหมายที่คนส่วนใหญ่เคยได้ยิน แต่อาจยังสงสัยถึงความหมายและความแตกต่างของคำดังกล่าว ผู้เขียนขออธิบายง่าย ๆ ดังนี้ค่ะ<br /><br /> โมฆะ แปลว่า เสียเปล่า ไม่มีผลบังคับหรือผูกพันตามกฎหมาย เช่น สัญญาเป็นโมฆะ และเมื่อกล่าวถึงคำ โมฆะ แล้ว ขออธิบายคำว่า โมฆกรรม ที่แปลว่า นิติกรรมที่เสียเปล่า ไม่มีผลบังคับหรือผูกพันตามกฎหมาย ไม่อาจให้สัตยาบันแก่กันได้ และผู้มีส่วนได้เสียคนใดคนหนึ่ง จะยกความเสียเปล่าขึ้นกล่าวอ้างก็ได้ เช่น การที่บุคคลหนึ่งทำสัญญาซื้อขายยาบ้ากับบุคคลอื่น ซึ่งเป็นสัญญาที่ขัดต่อกฎหมายและความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน สัญญานั้นตกเป็นโมฆะ <br /><br /> โมฆียะ แปลว่า ที่อาจเป็นโมฆะได้เมื่อมีการบอกล้าง หรือมีผลสมบูรณ์เมื่อมีการให้สัตยาบัน และเมื่อกล่าวถึงคำ โมฆียะ แล้ว ขออธิบายคำว่า โมฆียกรรม ที่แปลว่า นิติกรรมซึ่งอาจบอกล้าง เพิกถอน หรือให้สัตยาบันได้ ถ้าบอกล้างก็เป็นโมฆะมาแต่เริ่มแรก ถ้าให้สัตยาบันก็มีผลสมบูรณ์มาแต่เริ่มแรก อธิบายเข้าใจง่าย ๆ คือ นิติกรรมที่เป็นโมฆียะนั้น เป็นนิติกรรมที่กระทำโดยผู้มีสิทธิ์ แต่สิทธิ์นั้นยังไม่สมบูรณ์ อาจเป็นเพราะด้วยสาเหตุต่าง ๆ เช่น ด้วยความอ่อนอายุ ด้วยความไร้ความสามารถตามคำสั่งศาล แต่อาจจะสมบูรณ์ได้โดยการให้สัตยาบัน ซึ่งก็คือการรับรองโดยผู้มีอำนาจ เช่น การที่เด็กหรือผู้เยาว์ทำนิติกรรมซื้อขายทรัพย์สินเกินฐานานุรูปของตนเอง เป็นต้นว่าไปทำสัญญาซื้อขายบ้านหรือรถยนต์กับบุคคลภายนอก โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองของผู้เยาว์ก่อน สัญญาซื้อขายนั้นก็เป็นโมฆียกรรม ทั้งนี้ ถ้าผู้ปกครองให้สัตยาบันก็ถือว่านิติกรรมนั้นมีผลสมบูรณ์มาตั้งแต่เริ่มแรก แต่ถ้าผู้ปกครองบอกล้างหรือไม่ให้สัตยาบัน นิติกรรมนั้นก็จะเป็นโมฆะมาตั้งแต่ต้นAnonymousnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-5783025943988227087.post-25410221183822175082012-04-21T07:36:07.167+07:002012-04-21T07:36:07.167+07:00นิติกรรม
การกระทำที่จะเป็นนิติกรรมจะต้องประกอบด้ว...นิติกรรม <br />การกระทำที่จะเป็นนิติกรรมจะต้องประกอบด้วยหลักเกณฑ์ 5 ประการ<br />1. นิติกรรมต้องเริ่มจากการกระทำของบุคคลโดยการแสดง เจตนา<br />2. การแสดงเจตนาต้องชอบด้วยกฎหมาย<br />3. การแสดงเจตนาทำโดยสมัครใจ<br />4. ผู้แสดงเจตนามุ่งโดยตรงที่จะก่อให้เกิดความผูกพันตาม กฎหมาย (นิติสัมพันธ์) ตามที่แสดงเจตนาออกมา<br />5. มีการเคลื่อนไหวในสิทธิคือ เป็นการก่อ เปลี่ยนแปลง โอน สงวนหรือระงับสิทธิ<br />ความสมบูรณ์ของนิติกรรม<br />1. ความสามารถของผู้ทำนิติกรรม<br />2. วัตถุประสงค์ของนิติกรรม<br />3. แบบของนิติกรรม<br />ความหมายโมฆะกรรมและโมฆียะกรรม<br />โมฆะกรรมคือ นิติกรรมที่ตกเป็นอันเสียเปล่า ใช้บังคับไม่ได้ไม่เกิดผลในทางกฎหมายและไม่ทำให้คู่กรณีมีความผูกพันกันตามกฎหมาย<br> <br />โมฆียะกรรมคือ นิติกรรมที่เมื่อทำขึ้นแล้วมีผลผูกพันกันได้ตามกฎหมาย แต่ก็อาจถูกบอกล้างได้ในภายหลัง ซึ่งจะทำให้นิติกรรมนั้นตกเป็นโมฆะมาแต่วันเริ่มแรกทำนิติกรรม แต่ถ้าไม่มีการบอกล้างจนล่วงเลยเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้หรือถ้ามีการรับรองคือมีการให้สัตยาบันรับรู้หรือรับรองนิติกรรมนั้น ก็จะทำให้นิติกรรมนั้นสมบูรณ์มาแต่เริ่มแรกและใช้ได้ตลอดไป จะมาบอกล้างกันอีกต่อไปไม่ได้<br />ข้อแตกต่างระหว่างโมฆะกรรมและโมฆียะกรรม<br />โมฆะกรรม: เป็นการกระทำที่เสียเปล่ามาแต่ต้นไม่มีผลอย่างใดในกฎหมาย<br />โมฆียะกรรม: เป็นนิติกรรมที่สมบูรณ์ใช้ได้จนกว่าจะถูกบอกล้าง<br />โมฆะกรรม: เสียเปล่าโดยไม่จำเป็นต้องบอกล้าง<br />โมฆียะกรรม: เสียเปล่าต่อเมื่อมีการบอกล้างให้ตกเป็นโมฆะ<br />โมฆะกรรม: ผู้มีส่วนได้เสียทุกคนมีสิทธิกล่าวอ้างความเสียเปล่าได้<br />โมฆียะกรรม: ผู้มีสิทธิบอกล้างให้เป็นโมฆะได้นั้น จะต้องเป็นบุคคลซึ่งกฎหมายบัญญัติให้สิทธิไว้โดยเฉพาะ<br />โมฆะกรรม: ไม่อาจให้สัตยาบันได้เพราะเป็นการกระทำที่เสียเปล่ามาแต่ต้น<br />โมฆียะกรรม: อาจให้สัตยาบันได้<br />โมฆะกรรม: การกล่าวอ้างถึงความเสียเปล่าไม่มีกำหนดอายุความหรือกำหนดเวลา<br />โมฆียะกรรม: มีกำหนดเวลาบอกล้าง ถ้าไม่บอกล้างภายในกำหนดเป็นอันหมดสิทธิ<br />มาตราที่น่าสนใจ<br />มาตรา 150 การใดมีวัตถุประสงค์เป็นการต้อง ชัดแจ้งตามกฎหมายโดยกฎหมายเป็นการพ้นวิสัยหรือเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน การนั้นเป็นโมฆะ<br />มาตรา 152 การใดมิได้ทำให้ถูกต้องตามแบบที่กฏหมายบังคับไว้ การนั้นเป็นโมฆะ<br />มาตรา 153 การใดมิได้เป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมายว่าด้วยความสามารถของบุคคล การนั้นเป็นโมฆียะ<br />มาตรา156 การแสดงเจตนาโดยสำคัญผิดในสิ่งซึ่งเป็นสาระสำคัญแห่งนิติกรรมเป็นโมฆะความสำคัญผิดในสิ่งซึ่งเป็นสาระสำคัญแห่งนิติกรรมตามวรรคหนึ่ง ได้แก่ ความสำคัญผิดในลักษณะของนิติกรรมวามสำคัญผิดในตัวบุคคลซึ่งเป็นคู่กรณีแห่งนิติกรรมและความสำคัญผิดในทรัพย์สินซึ่งเป็นวัตถุแห่งนิติกรรม<br />มาตรา 157 การแสดงเจตนาโดยสำคัญผิดในคุณสมบัติของบุคคลหรือทรัพย์สินเป็นโมฆียะ<br />มาตรา 159 การแสดงเจตนาเพราะถูกกลฉ้อฉลกเป็นโมฆียะ<br />มาตรา 164 การแสดงเจตนาเพราะถูกข่มขู่เป็นโมฆียะ<br />มาตรา 172 โมฆะกรรมไม่อาจให้สัตยาบันแก่กันได้<br />มาตรา 176 โมฆียะกรรมเมื่อบอกล้างแล้ว ให้ถือว่าเป็นโมฆะมาแต่แรกและให้ผู้เป็นคู่กรณีกลับคืนสู่ฐานะเดิม ถ้าเป็นการพ้นวิสัยจะให้คืนกลับเช่นนั้นได้ก็ให้ได้รับค่าเสียหายชดใช้แทน <br />มาตรา 181 โมฆียะกรรมนั้นจะบอกล้างมิได้เมื่อพ้นเวลา 1ปี นับแต่เวลาที่อาจให้สัตยาบันได้หรือเมื่อพ้นเวลา 10 ปีนับแต่ได้ทำนิติกรรมอันเป็นโมฆียะนั้นDna Thailandhttps://www.blogger.com/profile/02617200953607570103noreply@blogger.com