ความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ความผิดเกี่ยวกับการปกครอง ความผิดเกี่ยวกับการยุติธรรม ความผิดเกี่ยวกับศาสนา ความสงบสุขของประชาชน การก่อให้เกิดภยันตรายต่อประชาชนและการค้า ความผิดเกี่ยวกับการปลอมและการแปลง ความผิดต่อชีวิต ความผิดต่อร่างกาย ความผิดเกี่ยวกับเพศ ทำให้แท้งลูกและทอดทิ้งเด็ก คนป่วยเจ็บหรือคนชรา ความผิดเกี่ยวกับเสรีภาพ ความผิดเกี่ยวกับชื่อเสียง ความผิดฐานลักทรัพย์และวิ่งราวทรัพย์ ความผิดฐานกรรโชก รีดเอาทรัพย์ชิงทรัพย์และปล้นทรัพย์ ความผิดฐานฉ้อโกง โกงเจ้าหนี้ และยักยอก ความผิดฐานรับของโจรทำให้เสียทรัพย์และบุกรุก ความผิดลหุโทษ
อาญา 2 (เอกรินทร์) - มาตราที่ควรดู สำหรับภาค 1 (นิติ มสธ.).pdf
แนวข้อสอบเก่า กฎหมายอาญา 2 ภาคความผิด.pdf
ข้อสอบเก่า นิติ มสธ. อาญา 2 .pdf
กฎหมายอาญา 2
กฎหมายอาญา 2 ภาคความผิด
หน่วยเน้นของกฎหมายอาญา 2 ของเทอมนี้ หน่วยที่ 2,4,6,7,11,12
แบ่งเนื้อหาได้เป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
หน่วยเน้นของกฎหมายอาญา 2 ของเทอมนี้ หน่วยที่ 2,4,6,7,11,12
แบ่งเนื้อหาได้เป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
กลุ่มที่ 1 ความผิดต่อเจ้าพนักงาน (หน่วยที่ 2) และความผิดที่เกี่ยวกับความสงบสุขของประชาชน (หน่วยที่ 4)
หัวข้อที่ 1 ความผิดต่อเจ้าพนักงาน อย่าลืมดูว่าเจ้าพนักงานหมายถึงบุคคลใดบ้าง
(1) ความผิดที่กระทำต่อเจ้าพนักงาน มาตรา 136*(แจ้งความเท็จ),137*(ดูหมิ่น),138, 139, 143**, 144**** (ให้สินบนเจ้าพนักงาน ควรดูควบคู่ไปกับมาตรา 149**** ด้วย)
(2) กรณีเจ้าพนักงานกระทำความผิด มาตรา 147**(ออกข้อสอบเมื่อภาคการศึกษาที่แล้ว), 148****, 149****(เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างมาตรา 148 + 149 ให้ดี) , 157*
หัวข้อที่ 2 เรื่องความผิดที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน
(1) ความผิดฐานอั้งยี่ (มาตรา 209**) และความผิดฐานซ่องโจร (มาตรา 210****) ดูแล้วเปรียบเทียบความแตกต่างให้ได้ ความผิดฐานซ่องโจรเพียงแต่สมคบกันเกิน 5 คน เพื่อกระทำความผิดตามภาค 2 ของ ปอ. แม้ความผิดนั้นยังไม่ได้กระทำลง ก็เป็นความผิดฐานซ่องโจรแล้ว
(2) ความผิดฐานชุมนุม ก่อความไม่สงบ หรือความวุ่นวายในบ้านเมือง ตามมาตรา 215***, 216*** (เปรียบเทียบข้อแตกต่างระหว่างมาตรา 215 และ 216 ให้ดี)
(3) ความผิดฐานวางเพลิงเผาทรัพย์ ตามมาตรา 217* (ดูเหตุฉกรรจ์ มาตรา 218), 219 (การตระเตรียมการวางเพลิงก็ถือว่าเป็นความผิด รับโทษเท่าการพยายามวางเพลิง), 220***(ความผิดโดยเจตนา ทำให้เกิดเพลิงไหม้แก่วัตถุ ซึ่งเป็นคนละกรณีกับการวางเพลิงเผาทรัพย์), 224*(ผลธรรมดาเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย), 225***(ความผิดโดยประมาท)
(4) ความผิดฐานปลอมปน ตามมาตรา 236 และมาตรา 237
หัวข้อที่ 1 ความผิดต่อเจ้าพนักงาน อย่าลืมดูว่าเจ้าพนักงานหมายถึงบุคคลใดบ้าง
(1) ความผิดที่กระทำต่อเจ้าพนักงาน มาตรา 136*(แจ้งความเท็จ),137*(ดูหมิ่น),138, 139, 143**, 144**** (ให้สินบนเจ้าพนักงาน ควรดูควบคู่ไปกับมาตรา 149**** ด้วย)
(2) กรณีเจ้าพนักงานกระทำความผิด มาตรา 147**(ออกข้อสอบเมื่อภาคการศึกษาที่แล้ว), 148****, 149****(เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างมาตรา 148 + 149 ให้ดี) , 157*
หัวข้อที่ 2 เรื่องความผิดที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน
(1) ความผิดฐานอั้งยี่ (มาตรา 209**) และความผิดฐานซ่องโจร (มาตรา 210****) ดูแล้วเปรียบเทียบความแตกต่างให้ได้ ความผิดฐานซ่องโจรเพียงแต่สมคบกันเกิน 5 คน เพื่อกระทำความผิดตามภาค 2 ของ ปอ. แม้ความผิดนั้นยังไม่ได้กระทำลง ก็เป็นความผิดฐานซ่องโจรแล้ว
(2) ความผิดฐานชุมนุม ก่อความไม่สงบ หรือความวุ่นวายในบ้านเมือง ตามมาตรา 215***, 216*** (เปรียบเทียบข้อแตกต่างระหว่างมาตรา 215 และ 216 ให้ดี)
(3) ความผิดฐานวางเพลิงเผาทรัพย์ ตามมาตรา 217* (ดูเหตุฉกรรจ์ มาตรา 218), 219 (การตระเตรียมการวางเพลิงก็ถือว่าเป็นความผิด รับโทษเท่าการพยายามวางเพลิง), 220***(ความผิดโดยเจตนา ทำให้เกิดเพลิงไหม้แก่วัตถุ ซึ่งเป็นคนละกรณีกับการวางเพลิงเผาทรัพย์), 224*(ผลธรรมดาเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย), 225***(ความผิดโดยประมาท)
(4) ความผิดฐานปลอมปน ตามมาตรา 236 และมาตรา 237
กลุ่มที่ 2 ความผิดต่อชีวิตและร่างกาย (หน่วยที่ 6,7)
หัวข้อที่ 1 เรื่องความผิดต่อชีวิต (หน่วยที่ 6) มาตราที่ควรให้ความสนใจ
(1) มาตรา 288 (ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา)
(2) มาตรา 289 (เหตุฉกรรจ์ของมาตรา 288)
(3) มาตรา 290 (ทำร้ายผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งเป็นความผิดที่ต้องการผล จึงไม่มีการพยายามการกระทำความผิด)
(4) มาตรา 291 (ประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เวลาตอบข้อสอบต้องอ้างมาตรา 59 วรรค 4 ด้วยเพื่อแสดงให้เห็นว่าเหตุใดจึงเป็นประมาท)
(5) มาตรา 292-293**** (ยุยงให้ผู้อื่นฆ่าตนเอง เปรียบเทียบความแตกต่างของ 2 มาตรานี้ให้ดี) และดูต่อไปด้วยว่าเมื่อใดถือว่าเป็นความผิดสำเร็จ
(6) มาตรา 294**** (ชุลมุนต่อสู้เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และเหตุยกเว้นโทษ)
นอกจากนี้ควรดูความผิดลหุโทษ มาตรา 374 เพื่อเป็นการเปรียบเทียบกับมาตรา 288 ด้วย (ไม่ถือว่าเป็นการกระทำที่จักต้องทำเพื่อป้องกันผลนั้น ตามมาตรา 59 วรรคท้าย)
หัวข้อที่ 1 เรื่องความผิดต่อชีวิต (หน่วยที่ 6) มาตราที่ควรให้ความสนใจ
(1) มาตรา 288 (ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา)
(2) มาตรา 289 (เหตุฉกรรจ์ของมาตรา 288)
(3) มาตรา 290 (ทำร้ายผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งเป็นความผิดที่ต้องการผล จึงไม่มีการพยายามการกระทำความผิด)
(4) มาตรา 291 (ประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เวลาตอบข้อสอบต้องอ้างมาตรา 59 วรรค 4 ด้วยเพื่อแสดงให้เห็นว่าเหตุใดจึงเป็นประมาท)
(5) มาตรา 292-293**** (ยุยงให้ผู้อื่นฆ่าตนเอง เปรียบเทียบความแตกต่างของ 2 มาตรานี้ให้ดี) และดูต่อไปด้วยว่าเมื่อใดถือว่าเป็นความผิดสำเร็จ
(6) มาตรา 294**** (ชุลมุนต่อสู้เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และเหตุยกเว้นโทษ)
นอกจากนี้ควรดูความผิดลหุโทษ มาตรา 374 เพื่อเป็นการเปรียบเทียบกับมาตรา 288 ด้วย (ไม่ถือว่าเป็นการกระทำที่จักต้องทำเพื่อป้องกันผลนั้น ตามมาตรา 59 วรรคท้าย)
หัวข้อที่ 2 เรื่องความผิดต่อร่างกาย (หน่วยที่ 7) มาตราที่ควรให้ความสนใจ
(1) มาตรา 295** ทำร้ายผู้อื่นเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ
(2) มาตรา 296 (เหตุฉกรรจ์ตามมาตรา 290 + 295),
(3) มาตรา 297**** (อันตรายสาหัสทั้ง 8 อนุมาตรา)
(4) มาตรา 299** (ชุลมุนต่อสู้เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส) และดูเหตุยกเว้นโทษด้วย
(5) มาตรา 300**(ประมาทเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัสแก่กาย)
นอกจากนี้ให้ดูไปถึงความผิดลหุโทษตามมาตรา 391 เป็นการใช้กำลังทำให้บาดเจ็บโดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และมาตรา 390 เป็นการกระทำโดยประมาทเป็นอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจ
(1) มาตรา 295** ทำร้ายผู้อื่นเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ
(2) มาตรา 296 (เหตุฉกรรจ์ตามมาตรา 290 + 295),
(3) มาตรา 297**** (อันตรายสาหัสทั้ง 8 อนุมาตรา)
(4) มาตรา 299** (ชุลมุนต่อสู้เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส) และดูเหตุยกเว้นโทษด้วย
(5) มาตรา 300**(ประมาทเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัสแก่กาย)
นอกจากนี้ให้ดูไปถึงความผิดลหุโทษตามมาตรา 391 เป็นการใช้กำลังทำให้บาดเจ็บโดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และมาตรา 390 เป็นการกระทำโดยประมาทเป็นอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจ
กลุ่มที่ 3 ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ (หน่วยที่ 11,12)
(1) ลักทรัพย์ (มาตรา 334****) เหตุฉกรรจ์ของการลักทรัพย์ (มาตรา 335*) วิ่งราวทรัพย์ (มาตรา 336*** = ลักทรัพย์ + ฉกฉวยซึ่งหน้า)
(2) กรรโชกทรัพย์ (มาตรา 337 เปรียบเทียบกับความผิดต่อเสรีภาพตามมาตรา 309 ด้วย) รีดเอาทรัพย์ (มาตรา 338) ชิงทรัพย์ (มาตรา 339 = ลักทรัพย์ + ทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้าย ซึ่งต้องแยกออกจากความผิดฐานลักทรัพย์ + ทำร้ายร่างกาย) และปล้นทรัพย์ (มาตรา 340 = ชิงทรัพย์โดยมีตัวการมากกว่าหรือเท่ากับ 3 คนขึ้นไป)
(1) ลักทรัพย์ (มาตรา 334****) เหตุฉกรรจ์ของการลักทรัพย์ (มาตรา 335*) วิ่งราวทรัพย์ (มาตรา 336*** = ลักทรัพย์ + ฉกฉวยซึ่งหน้า)
(2) กรรโชกทรัพย์ (มาตรา 337 เปรียบเทียบกับความผิดต่อเสรีภาพตามมาตรา 309 ด้วย) รีดเอาทรัพย์ (มาตรา 338) ชิงทรัพย์ (มาตรา 339 = ลักทรัพย์ + ทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้าย ซึ่งต้องแยกออกจากความผิดฐานลักทรัพย์ + ทำร้ายร่างกาย) และปล้นทรัพย์ (มาตรา 340 = ชิงทรัพย์โดยมีตัวการมากกว่าหรือเท่ากับ 3 คนขึ้นไป)
ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ฐานต่างๆ ข้างต้นต้องอ่านจนเข้าใจ และสามารถเปรียบเทียบความผิดแต่ละฐานได้ แต่อย่างไรก็ตาม ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ทุกฐานความผิดต้องเข้าใจความผิดฐานลักทรัพย์ (มาตรา 334) เป็นพื้นฐาน
คำแนะนำในการตอบข้อสอบอัตนัยกฎหมายอาญา 2
1. ข้อสอบจะถามว่านาย…… กระทำความผิดฐานใด ตอบฐานความผิดให้ชัดเจน อย่าตอบแบบเหวี่ยงแหหรือแสดงความไม่มั่นใจในการตอบ เช่น ตอบว่านาย…. มีความผิดฐานฉ้อโกง หรือผิดฐานยักยอกทรัพย์ อย่างนี้จะไม่ได้คะแนน อย่าตั้งชื่อฐานความผิดขึ้นมาเอง ชื่อฐานความผิดที่ถูกต้องให้ดูในเอกสารการสอน
2. การอ้างหลักกฎหมาย จะอ้างเป็นข้อความตามที่ปรากฏใน ปอ. หรือจะแจกแจงองค์ประกอบภายนอกและองค์ประกอบภายใน (เจตนา เจตนาพิเศษ ประมาท) ก็ได้ ไม่ต้องระบุโทษ และถ้าจำเลขมาตราไม่ได้ ไม่ต้องใส่ลงไป ถ้าอ้างเลขมาตราผิด ก็จะเสียคะแนนอีก
3. บางครั้งการตอบข้อสอบ ก็ต้องอ้างความรู้ตามกฎหมายอาญา 1 ด้วย เช่น นาย….. ไม่มีความผิดฐาน…… เนื่องจากผู้กระทำไม่รู้องค์ประกอบภายนอกของความผิดฐาน……. จึงถือว่าไม่มีเจตนาตามมาตรา 59 วรรค 3 หรือผู้กระทำความผิดกระทำการไม่ตลอด หรือกระทำการไปโดยตลอดแล้ว แต่การกระทำไม่บรรลุผล ถือว่าเป็นการพยายามกระทำความผิด ต้องได้รับโทษ 2 ใน 3 ส่วนของความผิดที่ได้กระทำลง ตามมาตรา 80 หรือในกรณีที่เป็นการกระทำโดยประมาท ก็ควรอ้างด้วยว่าเป็นการกระทำโดยประมาทอย่างไรตามมาตรา 59 วรรค 4 เป็นต้น
4. นอกจากมาตราที่เน้นให้ข้างต้นแล้ว ควรดูคำพิพากษาฎีกาในเอกสารการสอนมากๆ เพราะข้อสอบหลายๆครั้งนำมาจากคำพิพากษาในเอกสารการสอนนั่นเอง
5. เทปเสียงประจำชุดวิชา ซึ่งเป็นเสียงของอาจารย์สุจินตนา ชุมวิสูตร ซึ่งมี 4 ม้วนนั้น และเอกสารสอนเสริมทั้ง 2 ครั้ง สามารถนำมาใช้ทบทวนได้ดีมาก ฟังและอ่านบ่อยๆ ก็จะจำได้เอง
1. ข้อสอบจะถามว่านาย…… กระทำความผิดฐานใด ตอบฐานความผิดให้ชัดเจน อย่าตอบแบบเหวี่ยงแหหรือแสดงความไม่มั่นใจในการตอบ เช่น ตอบว่านาย…. มีความผิดฐานฉ้อโกง หรือผิดฐานยักยอกทรัพย์ อย่างนี้จะไม่ได้คะแนน อย่าตั้งชื่อฐานความผิดขึ้นมาเอง ชื่อฐานความผิดที่ถูกต้องให้ดูในเอกสารการสอน
2. การอ้างหลักกฎหมาย จะอ้างเป็นข้อความตามที่ปรากฏใน ปอ. หรือจะแจกแจงองค์ประกอบภายนอกและองค์ประกอบภายใน (เจตนา เจตนาพิเศษ ประมาท) ก็ได้ ไม่ต้องระบุโทษ และถ้าจำเลขมาตราไม่ได้ ไม่ต้องใส่ลงไป ถ้าอ้างเลขมาตราผิด ก็จะเสียคะแนนอีก
3. บางครั้งการตอบข้อสอบ ก็ต้องอ้างความรู้ตามกฎหมายอาญา 1 ด้วย เช่น นาย….. ไม่มีความผิดฐาน…… เนื่องจากผู้กระทำไม่รู้องค์ประกอบภายนอกของความผิดฐาน……. จึงถือว่าไม่มีเจตนาตามมาตรา 59 วรรค 3 หรือผู้กระทำความผิดกระทำการไม่ตลอด หรือกระทำการไปโดยตลอดแล้ว แต่การกระทำไม่บรรลุผล ถือว่าเป็นการพยายามกระทำความผิด ต้องได้รับโทษ 2 ใน 3 ส่วนของความผิดที่ได้กระทำลง ตามมาตรา 80 หรือในกรณีที่เป็นการกระทำโดยประมาท ก็ควรอ้างด้วยว่าเป็นการกระทำโดยประมาทอย่างไรตามมาตรา 59 วรรค 4 เป็นต้น
4. นอกจากมาตราที่เน้นให้ข้างต้นแล้ว ควรดูคำพิพากษาฎีกาในเอกสารการสอนมากๆ เพราะข้อสอบหลายๆครั้งนำมาจากคำพิพากษาในเอกสารการสอนนั่นเอง
5. เทปเสียงประจำชุดวิชา ซึ่งเป็นเสียงของอาจารย์สุจินตนา ชุมวิสูตร ซึ่งมี 4 ม้วนนั้น และเอกสารสอนเสริมทั้ง 2 ครั้ง สามารถนำมาใช้ทบทวนได้ดีมาก ฟังและอ่านบ่อยๆ ก็จะจำได้เอง
โดยทั่วไปวิชานี้ไม่ใช่วิชาที่ยากของสาขานิติศาสตร์ มสธ. ถ้าอ่านหนังสือ ดูตัวบทที่สำคัญจนสามารถอ้างได้ ก็จะสามารถสอบผ่านได้โดยง่าย ขอให้โชคดีครับ
คำตอบอาญา 2
1.น.ส แดงมีอาชีพรับจ้างเลี้ยงเด็ก และมีเด็กอยู่ในความปกครอง 2 คน วันหนึ่งขณะที่เด็กทั้ง 2 กำลังนอนหลับ น.ส.แดงได้เสียบปลั๊กกาต้มน้ำเพื่อจะชงนมให้เด็ก จน น.ส.แดงลืมถอดปลั้กจนเป็นเหตุให้เพลิงไหม้บ้านของ น.ส.แดง แต่ น.ส. แดงช่วยเด็กไว้ได้ทัน และเพลิงก็ยังจะไปลุมลามไปบ้านของผู้อื่น แต่ดับได้ทัน
ดังนั้น น.ส. แดงจะผิดอาญาฐานใดหรือไม่
2.พ่อของ น.ส.เอ พา น.ส.เอ อายุ 15 ปี ไปฉลองวันเกิดที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง และก็มีนายบีนักธุรกิจหนุ่มซึ่งมีภรรยาแล้วมาร่วมงานด้วย นายบี พึงพอใจ น.ส.เอ น.ส.เอ ก็พึงพอใจ นายบีเหมือนกัน วันต่อมานายบี จึงได้โทรศัพท์ นัดให้ น.ส เอ ให้ออกมาหาที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง โดยบอกกับ น.ส.เอ ไว้ว่าไม่ต้องบอกพ่อแม่ แล้วนายบี ก็พา น.ส เอเข้าโรงแรมและร่วมประเวณีกัน โดย น.ส เอ ยินยอม
นายบี จะมีความผิดอาญาฐานใดหรือไม่
3. นานพสุ เป็นผู้มีความสามารถในการพูดปลุกระดมมวลชน และได้แจ้งข่าว/โฆษณา แก่ประชาชนทั่วไปว่าวันพรุ่งนี้จะอภิปรายโจมตีการทำงานของนายไพรัชซึ่งเป็นประธานรัฐวิสาหกิจ ว่า ทุจริตต่อต่อหน้าที่ ตกเย็นวันนั้นนายพสุได้ข่มขู่ให้นายไพรัชนำเงินมาจ่ายให้ตนเอง จำนวน 50,000 บาท ถ้าหากไม่นำมาให้จะอภิปรายโจมตี ในวันรุ่งขึ้น ซึ่งนายไพรัชก็ตกลงยินยอมว่าจะจ่ายให้ พอวันรุ่งขึ้น นายไพรัฐจึงกลับใจไม่ยอมจ่ายให้ นายพสุ
ดังนั้น นายพสุจะมีความผิดทางอาญาฐานใดหรือไม่ อย่างไร(ให้ตอบเฉพาะความผิดที่เกี่ยวกับทรัพย์)
————————————
1. ทำให้เกิดเพลิงไหม้โดยประมาท
2.พรากผู้เยาว์ ม. 319
3.พยายามรีดทรัพย์
ที่มา http://nitistou.wordpress.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น